rails 3: How to get the old value of an attribute in Rails

Q: อยากจะได้ค่าก่อนหน้าของแต่ละ attribute ทำอย่างไร เพื่อไว้เปรียบเทียบค่าเก่า ค่าใหม่ ?

A: ให้เพิ่ม _was ต่อท้ายใน attribute นัั้นๆ ได้เลย ก็จะแสดงค่าก่อนหน้ามาให้

Excel : แทนค่า 0 ด้วยช่องว่าง

Problem : พอดี cell นั้นใช้สูตร copy มาจาก cell อื่น (=A2) แต่ cell ที่ถูกอ้าง (A2) เป็นค่าว่าง ผลลัพธ์ที่ cell ที่อ้างจึงมีค่าเป็น 0 แต่อยากจะให้แสดงเป็นค่าว่างเหมือนกัน

Solution : คลิกขวา cell ที่่อ้าง เลือก format cells ที่ Tab แรก Number ช่อง Category เลือก Custom ในช่อง Type พิมพ์ 0;-0;;@

rails 3: Rails Footnotes

1. gem 'rails-footnotes', '>= 3.7', :group => :development

2. create footnotes.rb in initializers

3. insert code :

if defined?(Footnotes) && Rails.env.development?

Footnotes.run! # first of all

# ... other init code

Footnotes::Filter.prefix = 'mvim://open?url=file://%s&line=%d&column=%d'

end

rails 3: query_reviewer

1. Gemfile - gem "query_reviewer", :git => "git://github.com/nesquena/query_reviewer.git"
2. Terminal - Bundle install
3. Terminal - rake query_reviewer:setup
4. View - add <%=query_review_output%> in xxxxx.erb file
5. See result following picture above

ref. https://github.com/dsboulder/query_reviewer

Rails 3: load schema to production environment

1. Development Environment : rake db:schema:dump
2. Production Environment : rake db:schema:load RAILS_ENV=production

jQuery: การกรอกข้อมูลแบบ token field

อธิบายด้วยภาพ ไม่ต้องบรรยายต่อแล้ว ลองเล่นได้ที่

http://loopj.com/jquery-tokeninput/demo.html

Windows : มารู้จักกับ CAL (Client Access License)

สิทธิการเข้าใช้งานเซิร์ฟเวอร์, เซิร์ฟเวอร์/CAL และ โปรเซสเซอร์ (Server Licensing Models – Operating Systems, Server/CAL และ Per Processor) ผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ทั้งแบบระบบปฏิบัติการบนเซิร์ฟเวอร์และเซิร์ฟเวอร์/CAL นั้นท่านสามารถติดตั้งซอฟต์แวร์บนเซิร์ฟเวอร์นั้นๆ พร้อมทั้งจัดหาสิทธิการเข้าใช้งานเซิร์ฟเวอร์ (Client Access License หรือ CAL)ซึ่งมีทั้งแบบต่ออุปกรณ์และต่อผู้ใช้ พร้อมทั้งสิทธิการเชื่อมต่อสำหรับบุคคลภายนอกถ้ามี (External Connector หรือ EC) ซึ่งหนึ่งลิขสิทธิ์ของ EC ให้สิทธิเข้าใช้งานไม่จำกัดจำนวนเครื่องหรือผู้ใช้งานต่อเซิร์ฟเวอร์ โดยบุคคลภายนอกในแง่ลิขสิทธิ์นั้นไม่รวมถึงพนักงานที่อยู่นอกออฟฟิสหรือพนักงานชั่วคราว

rails 3: foreign key in migration

class ExampleMigration < ActiveRecord::Migration def self.up

create_table :products do |t|
t.references :category
end
#add a foreign key
execute <<-SQL ALTER TABLE products ADD CONSTRAINT fk_products_categories FOREIGN KEY (category_id) REFERENCES categories(id) SQL add_column :users, :home_page_url, :string rename_column :users, :email, :email_address

end

def self.down

rename_column :users, :email_address, :email
remove_column :users, :home_page_url
execute "ALTER TABLE products DROP FOREIGN KEY fk_products_categories"
drop_table :products

end

rails 3 : rake command on environment .

ใช้ parameter ที่ชื่อว่า RAILS_ENV ส่งค่าตาม environment ที่ต้องการตามตัวอย่างนี้

rake db:create RAILS_ENV=test
rake db:migrate RAILS_ENV=test
rake db:drop RAILS_ENV=test

ruby: Can I set primary key in model ?

ให้ใช้ options hash ที่มี key ที่ชื่อว่า :primary_key ตามตัวอย่าง

create_table :countries ,:primary_key => :code do |t|
t.string :code, :limit => 2, :null => false
t.string :iso_a3, :limit => 3, :null => false
t.string :name, :null => false
t.timestamps
end

ruby: Failed to build the native extension in Ruby

ปัญหา

ถ้ามี error : Failed to build the native extension in Ruby หลังจากใช้ gem insatll

แก้ไข

ใช้ DevKit เพื่อแก้ไข ตามลิงก์นี้เลย https://github.com/oneclick/rubyinstaller/wiki/Development-Kit

rails 3 : Configuration for PostgreSQL

1. ติดตั้ง PostgreSQL ใน Rails 3 โดยไปเพิ่มสองบรรทัดใน Gemfile....
• source 'http://gemcutter.org'
• gem 'pg', '0.9.0'
หลังจากนั้นใช้คำสั่ง > bundle install
ใส่ config ใน database.yml ประมาณนี้
development:
adapter: postgresql
host: localhost
port: 5432
username: postgres
password: xxxxx
database: pg_development
schema_search_path: test
encoding: utf8
template: template0
ทดสอบ เข้า irb โดยใช้คำสั่ง > rails console

ruby: Install multiple version of ruby on windows

Tool ที่จะช่วยลง ruby หลายๆ version จะมี RVM (Ruby Version Management) ในการจัดการ แต่ RVM ใช้อยู่บน Linux ไม่สนับสนุนบน Windows แต่เราต้องการบน Windows ซึ่งมี Tool ตัวหนึ่งที่ชื่อ pik ที่ไว้ทำหน้าที่เหมือนกันกับ RVM เรามาดูขั้นตอนการใช้งาน

1. gem install pik
2. สร้าง Folder pik ไว้ที่ Drive c:
   
3. จากนั้นไป set %PATH% ใน environment variable ใส่ข้างหน้าก่อน path ของ ruby
   
4. หลังจากนั้นติดตั้ง pik โดยใช้คำสั่ง > pik_install c:\pik จะได้ 3 files ตามภาพ
5. install ruby อีก version ตามตัวอย่างนี้ ติดตั้ง version 1.9.2 ไว้ที่ C:\Ruby192
6. ต่อไปบอกให้ pik รู้อีก version โดยใช้คำสั่ง > pik add C:\Ruby192\bin
7. ตรวจสอบ ruby ทั้งสอง version โดยใช้คำสั่ง > pik list
8. เราจะทดสอบการติดตั้ง Rails version 3.0 บน ruby version 1.9.2 ต้องทำการ switch ruby ไปที่ version 1.9.2 โดยใช้คำสั้่ง > pik switch 192
9. ลองตรวจสอบก่อนดูว่าเป็น version 1.9.2 หรือยัง โดยใช้คำสั่ง > ruby -v
10. หลังจากนั้นก็ติดตั้ง rails ตามปกติ > gem install rails
11. เรียบร้อย แต่ถ้าเราต้องการกลับไป version ก่อนหน้า ใช้คำสั่ง > pik default

อ้างอิง

• Installing Rails 3.0, Ruby 1.9.2 and Pik on Windows
  

ruby: Ruby syntax

เ้ก็บไว้ซะหน่อย

http://docs.huihoo.com/ruby/ruby-man-1.4/syntax.html

ruby : Comment in html.erb

Comment :

single line

<%-# ................ -%>

multi-line

<% if false %>

.....

.....

.....

<% end %>